Wednesday, March 30, 2016

สารสกัดจากมะเขือเทศ (Lycopene)

สารสกัดจากมะเขือเทศ (Lycopene)
ไลโคปีน (Lycopene) คือ สารสีแดงพบมากในมะเขือเทศ เป็นสารสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีฤทธิ์ที่ดีกว่าแบต้าแคโรทีน และแอลฟาโทโคฟีรอล ถึง 2 และ 10 เท่า ตามลำดับ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่สุด และเป็นสารที่ละลายในน้ำมัน และจะถูกดูดซึมได้ดีในรูปของน้ำมัน ให้ประโยชน์สูงกับอวัยวะที่มีเซลล์ไขมันเป็นส่วนประกอบจำนวนมาก เช่น ต่อมลูกหมาก และผิวหนัง จากผลวิจัยที่ผ่านมาในอดีต Lycopeneเป็น เม็ดสีที่ช่วยให้ผักและผลไม้ เช่น มะเขือเทศ แตงโม ส้มโอมีสีชมพูและแดง และที่สำคัญ ไลโคปีน จะปรากฎขึ้นเพื่อแสดงความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้รับนอกเหนือจากการป้องกันและสามารถลดอัตราการเสี่ยง ของการเกิดโรคมะเร็งดังกล่าว
ประโยชน์ของไลโคปีน
1.) ลดอัตตราการเกิดสิว
2.) ช่วยให้ผิวแข็งแรงทนต่อการทำลายของแสงแดดได้มากขึ้น 3 เท่า จึงลดความรุนแรงของการเผาไหม้ของผิวหนังจากแสง สามารถต่อต้านมะเร็งผิวหนัง และชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว
3.) ช่วยให้ผิวดูสวยอมชมพูมีเลือดฝาด
4.) บำรุงผิวพรรณให้สดใส เปล่งปลั่ง ผิวมีสุขภาพดี ไม่ไวต่อแสง
5.) มีฤทธิ์ที่ดีมากในการช่วยยั้บยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันชนิด Low density lipoprotein (LDL) จึงสามารถป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัว (Atherosclerosis) ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
6.) ลดอัตรการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด

Cr.thaibio.com

Sunday, March 27, 2016

BALANCE H HAIR TONIC SERUM : หมดปัญหาผมน้อย ผมบาง ไม่มีผม

BALANCE H HAIR TONIC SERUM : หมดปัญหาผมน้อย ผมบาง ไม่มีผม



เห็นผลใน 1 เดือน พลาดไม่ได้ต้องลอง  นวัตกรรมการดูแลเส้นผมด้วยนาโนเทคโนโลยี ทำให้ซึมเข้าสู่เซลล์ผิวหนังคุณได้อย่างหมดจด และแก้ปัญหาได้ตรงจุด

 คุณสมบัติ
 -  ลดการหลุดร่วงของเส้นผม
 -  คุณภาพสูงสุดสำหรับผมร่วงเรื้อรัง
 -  กำจัดปัญหาผมมันและรังแค
 -  มีPolymer filmช่วยเคลือบรากผมไม่ให้ขาดหลุดร่วงง่าย
 -  มีสารสกัดจากขิง(Ginger extract)กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้รากผมแข็งแรง
 -  มีFolicusanกระตุ้นการผลิตของรากผมได้ไวขึ้น

วิธีการใช้
 -  ฉีดพ่นบริเวณที่ผมบางหลังสระ โดยไม่ต้องล้างออก
 -  นวดเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนและดูดซึมซับเข้าถึงรากผม อย่างมีประสิทธิภาพ
 -  ฉีดพ่นบริเวณที่ผมบางทุกวันเช้า,เย็น

 คำแนะนำ
 -  การใช้ BALANCE H SERUM  ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเสริมสร้างความถี่ในการขึ้นของเส้นผม รวมถึงความแข็งแรงของเส้นผมที่เกิดขึ้นใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ใช้ BALANCE H SERUM  ฉีดบริเวณหนังศีรษะที่มีผมบางและนวดเบา ๆ เพื่อกระตุ้นรากเซลล์ผมให้แข็งแรง

ผลหลังการใช้
 -  BALANCE H SERUM  จะเข้าไปบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก รักษารากผมเดิม ทำให้เส้นผมไม่หลุดร่วงง่าย และกระตุ้นรากผมใหม่ให้แข็งแรง ผมที่ขาวจะดำขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง


ราคากล่องละ 990 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ‼️ ซื้อ3 กล่อง แถมฟรีอีก1 กล่องทันที!!



สนใจสินค้า สั่งซื้อ หรือ สอบถามข้อมูลสินค้าตลอด 24ช.ม.ได้ที่ 
► Tel : 0877967643
► Line ID : 0877967643 / http://line.me/R/ti/p/~0877967643

► Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/balancefandb













สนใจสินค้า สั่งซื้อ หรือ สอบถามข้อมูลสินค้าตลอด 24ช.ม.ได้ที่ 
► Tel : 0877967643
► Line ID : 0877967643 / http://line.me/R/ti/p/~0877967643
► Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/balancefandb

Friday, March 25, 2016

วิตามินซี

  • วิตามินซี (Vitamin C) หรือ กรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
  • สัตว์ส่วนใหญ่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีเองได้ แต่มนุษย์ต้องอาศัยวิตามินซีจากอาหารเสริมแทนเท่านั้น
  • วิตามินซี มีบทบาทสำคัญในการสร้าง คอลลาเจน เพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย
  • วิตามินชนิดนี้มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.)
  • วิตามินซีช่วยให้ร่างกายดูดซึม ธาตุเหล็ก ได้ดียิ่งขึ้น
  • วิตามินซีจะถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อคุณตกอยู่ในสภาวะเครียด
  • การขาดวิตามินซีอาจทำให้เกิดโรคเลือดออกตามไรฟันได้
  • ขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันอยู่ที่ 60 mg. และสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่ประมาณ 70-96 mg.
  • ผู้ที่สูบบุหรี่และผู้สูงอายุ ควรได้รับวิตามินซีเพิ่มมากขึ้น
  • ร่างกายจะสูญเสียวิตามินซี 25 – 100 mg. ต่อการสูบบุหรี่หนึ่งมวน
  • ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)
  • แหล่งที่พบวิตามินซีได้ในธรรมชาติ ได้แก่ ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว แคนตาลูป มันฝรั่ง มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ พริกไทย เป็นต้น
  • หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดนิ่ว บางครั้งการรับประทานในปริมาณที่สูงหรือมากกว่า 10,000 mg. ขึ้นไปอาจก่อให้เกิดผลเสีย เช่น อาการท้องร่วง ปัสสาวะบ่อย มีผื่นผิวหนัง ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวคุณควรรับประทานในปริมาณที่น้อยลง คนไข้โรคมะเร็งที่กำลังฉายรังสีหรือเคมีบำบัด ไม่ควรรับประทานวิตามินซีเพราะผลตรวจอาจแปรปรวนได้
  • ศัตรูของวิตามินซี ได้แก่ แสง, ออกซิเจน, น้ำ, ความร้อน, การสูบบุหรี่, การปรุงอาหาร

ประโยชน์ของวิตามินซี

  1. ประโยชน์ของวิตามินซีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  2. การรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวใส เนียน นุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
  3. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  4. ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัด
  5. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
  6. ประโยชน์วิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด
  7. ช่วยต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน (สารก่อมะเร็ง)
  8. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  9. ประโยชน์ของวิตามินซี ช่วยลดความดันเลือด
  10. ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดเลือดอุดตัน ในหลอดเลือดดำ
  11. ช่วยต่อชีวิตให้เซลล์โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น
  12. ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
  13. เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
  14. เพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  15. ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
  16. ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด
  17. ช่วยเร่งให้แผลหลังผ่าตัดหายเร็วยิ่งขึ้น
  18. ช่วยในการรักษาแผลสด แผลไหม้ให้หายเร็วยิ่งขึ้น
แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์) / http://frynn.com/

Thursday, March 24, 2016

แอล-กลูตามีน

แอล-กลูตามีน จัดเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างได้เองในปริมาณเพียงเล็กน้อย ดังนั้นการรับประทานอาหารที่ครบถ้วนจึงค่อนข้างเป็นสิ่งที่จำเป็นและจักเป็นกรดอะมิโนที่มีมากที่สุดในร่างกาย และสำคัญต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะในเรื่องของการเสริมสร้างกล้ามเนื้อซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายประเภทการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อชดเชยและซ่อมแซมส่วนของกล้ามเนื้อที่สูญเสียไปขณะการออกกำลังกาย ซึ่งจะเป็นตัวช่วยทำลายกรดแลคติค (Lactic) ที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ เช่น ระหว่างออกกกำลังกายอย่างหนัก การทำลายกรดแลคติดจะช่วยลดอาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ออกกำลังกายได้นานยาวขึ้น

แอล-กลูตามิน เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของเซลล์ที่มีบทบาทต่อภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ และหากมีการเสริมให้เพียงพอกับความต้องการ แอล-กลูตามินจะมีประโยชน์อย่างมากในภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันถูกกดดันจากการออกกำลังอย่างหนัก มีความสำคัญยิ่งในการต้านการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เอดส์ แผลไฟไหม้ การรักษาด้วยยาที่กดภูมิคุ้มกัน การบำบัดด้วยรังสีและมะเร็ง ทั้งนี้เมื่อมีการเสริมแอล-กลูตามินก็จะยิ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์

ประโยชน์ของแอล-กลูตามีน
- กระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนและกล้ามเนื้อ
- กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต (Growth Hormone)
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดการเป็นหวัดหรือการติดเชื้อ โดยการเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว
- ช่วยสลายกรดแลคติก (Lactic Acid) ที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างหนัก และช่วยลดอาการล้าของกล้ามเนื้อ
- ลดการเสื่อมสลายของกล้ามเนื้อ
-
- ช่วยยับยั้งเม็ดสีผิวและกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวสีอ่อน
- ช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใสขึ้น

Cr.http://www.thaibio.com/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%99

Tracking No. ประจำวันที่ 24/3/2559

🎉ยอดสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง สนใจสั่งซื้อสินค้า หรือสมัครตัวแทนจำหน่าย แจ้งเข้ามากันได้เลยจ้าาา

🎁
Tracking No. ประจำวันที่ 24/3/2559
EP761439934TH ลัดดา
EP761439948TH ประทุมรัตน์
EP761439951TH รจนา
EP761439965TH นิตยา
EP761439979TH วิชัย
EP761440124TH สุชาติ
EP761440138TH พฤทธ์พล
EP761440141TH วีรวัฒน์
EP761440155TH เชาวลิต
EP761440169TH มูฮอำหมัด
EP761440172TH ฐิติระพงษ์
EP761440186TH ส.ต.ต.ชินวัชร์
EP761440288TH เฉลิมชัย
EP761440291TH เอกชัย
EP761440305TH ณรงค์
EP761440314TH ธันวา
EP761440328TH สุระศรี
EP761440331TH ส.อ.จีระพันธุ์
EP761440345TH กุหลาบ
EP761440359TH ไพทูล
EP761440362TH ส.อ.ระมาศ
EP761440376TH วันเผด็จ
EP761440380TH ธัญญา
EP761440393TH ธนกิตติ์
EP761440402TH เกษม
EP761440416TH สุจริต
EP761440420TH ยอดชาย
EP761440433TH ครรชิต
EP761440447TH ภาณุ
EP761440455TH วิทยา
EP761440464TH วรภัทร
EP761440597TH วิทยา
EP761440606TH สุกิจ
EP761440610TH ไพบูลย์
EP761440623TH ประเสริฐ
EP761440637TH อิสราชัย
EP761440645TH ชบ พุทธสุภะ
EP761440654TH บัญญัติ
EP761440668TH สุทธิพงษ์
EP761440671TH พงษ์ลดา
EP761440756TH อรรถพล
EP761440760TH นภัสมวีห์
EP761440827TH วรวุฒิ
EP761440889TH จินตนา
EP761440892TH สิทธิพันธุ์
EP761440901TH ภัคพงศ์
EP761440915TH อภิชัย
EP761440929TH ณัฐปวีณ์
EP761440932TH มณฑล
EP761440946TH ธวัชชัย
EP761440950TH ประวิทย
EP761440963TH สรวิชญ์
EP761440977TH กฤษณพร
EP761440985TH ณัฐพล
EP761440994TH พลฯจิตอารัญ
EP761441005TH ธนิศักดิ์
EP761441014TH นวิญญา
EP761441028TH ร.ท.ราเชน
EP761441031TH ชาญชัย
EP761441045TH วันชัย
EP761441059TH Abuya
EP761441062TH เฉลิมชาติ

รับสมัครตัวแทนจำหน่าย (Dropship) ทั้งแบบสต๊อกและไม่สต๊อกสินค้า

โอกาสดีๆมาแล้ว !!! รับสมัครตัวแทนจำหน่าย (Dropship) ผลิตภัณฑ์ Balance ทั้งแบบสต๊อกและไม่สต๊อกสินค้า สินค้าขายง่าย รายได้ดี ไม่มีค่าแรกเข้า ไม่ต้องเปิดบิลแรก
สนใจติดต่อ-สอบถาม 
🎉
► Tel : 0877967643
► Line ID : 0877967643 
► Fanpage Inbox :https://www.facebook.com/messages/383484525072734



Friday, March 18, 2016

ไกลซีน (Glycine)

ไกลซีน (Glycine)


ไกลซีน จัดอยู่ในกลุ่ม กรดอะมิโนไม่จำเป็น (non-essential amino acid) มีรสหวาน จำเป็นสำหรับการสร้างโปรตีนในร่างกาย การสังเคราะห์กรดนิวคลีอิก การสร้างของ RNA, DNA, กรดน้ำดี และกรดอะมิโนอื่น ๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีประโยชน์ในการช่วยดูดซึมของแคลเซียมในร่างกาย และเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงาน ไกลซีน เป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญมากในการช่วยเพิ่มการโอบอุ้มน้ำให้แก่เซลล์ผิวและรักษาความยืดหยุ่นของผิวหนัง
ไกลซีน มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่โดดเด่นหลายประการ เช่น ไกลซีนให้ผลดีต่อการรักษาภาวะต่อมใต้สมองทำงานน้อย และเนื่องจากไกลซีนช่วยเพิ่มครีเอทีนีนให้แก่ร่างกาย (ครีเอทีนีน เป็นสารที่สำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ) มันจึงใช้ได้ผลในการรักษาโรคกล้ามเนื้อฝ่อลีบ และที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ หากร่างกายได้รับไกลซีนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น และมีพลังงาน แต่หากได้รับมากเกินไปจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้
ไกลซีน มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง จึงถูกนำไปใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้าแบบคลุ้มคลั่งและอาการไฮเปอร์ และยังอาจช่วยป้องกันอาการของโรคลมชัดได้ด้วย
ปัจจุบัน แพทย์ทางโภชนาการหลายท่าน ใช้ไกลซีนในการรักษาภาวะน้ำตาลต่ำ (ไกลซีน กระตุ้นการหลั่งของกลูคากอน ซึ่งย่อยสลายไกลโคเจนเปลี่ยนรูปเป็นน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด)
นอกจากนี้ ไกลซีนยังถูกใช้ในการรักษาภาวะกรดในกระเพาะมากเกินไปอย่างได้ผล กรดอะมิโนชนิดนี้จึงมักถูกรวมไว้ในยาลดกรดหลายชนิดด้วยเช่นกัน ทั้งยังใช้ในการรักษาภาวะเลือดเป็นกรดบางกรณี โดยเฉพาะกรณี ลิวซีนไม่สมดุล ซึ่งส่งผลให้เกิดความผิดปกติของกลิ่นตัวและลมหายใจ ซึ่งก่อนหน้านี้รักษาได้เพียงวิธีเดียวคือ จำกัดอาหารที่มีลิวซีน
จากผลวิจัยพบว่า ไกลซีน เพิ่มความจำในผู้ที่ประสบปัญหาหลากหลายจาก การนอนหลับ รวมถึงโรคจิตเภท, โรคพาร์คินสัน, Huntington’s disease (โรคที่ก่อให้เกิดความผิดปกติที่มีผลต่อการประสานงานของกล้ามเนื้อ และกระบวนการคิด), โรคเจ็ตแล็ก (Jet Lag) และความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักเกินไป
การขาดไกลซีน ร่างกายจะไม่สามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายได้ ผิวจะหย่อนคล้อยและไม่สามารถต้านทานต่อการทำร้ายผิวจากรังสียูวีและอนุมูลอิสระได้ และหากมีบาดแผลจะยากต่อการรักษา
แหล่งที่พบ ไกลซีน ในธรรมชาติ พบมากในโปรตีนจากเนื้อปลา, ผลมะเม่า, เนื้อสัตว์ต่างๆ, ถั่ว, ผลิตภัณฑ์จากนม และชีส

Cr.http://www.greenclinic.in.th/glycine.html

Tuesday, March 15, 2016

อะเซโรลา เชอร์รี่ (Acerola Cherry) ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงสุด ส่วนประกอบสำคัญของ Balance W

อะเซโรลา เชอร์รี่ (Acerola Cherry) ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงสุด


อะเซโรลา เชอร์รี่ เป็นพืชในตระกูล Malpighiaceae มีชื่อสามัญว่า Barbados cherry, west Indian cherry, acerola, cereza, cerisier, shimarucu และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Malpighia punocifolia L. โดยชื่อ อะเซโรลา เชอร์รี่เป็นชื่อภาษาเปอร์โตริกัน
อะเซโรลา เชอร์รี่ เป็นพืชเขตร้อน (tropical to sub-tropical) มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะอินดีสตะวันตก (West Indies) แถบทะเลแคริบเบียน โดยพบทางตอนเหนือของอเมริกาใต้ เช่น เม็กซิโก บาฮามาส ทรินิเดด คิวบา จาไมก้า บราซิล เปอร์โตริโก และแผ่ขยายไปจนถึงอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ เชื่อกันว่ามีการนำจากประเทศคิวบาไปปลูกที่รัฐฟลอริดา อเมริกา ในค.ศ. 1887-1888 ก่อนที่จะมีการนำไปปลูกที่ประเทศเปอร์โตริโกก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีการนำไปปลูกทั่วโลก เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย


อะเซโรลา เชอร์รี่ เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ สูงประมาณ 6 เมตร ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เซนติเมตร มีขนอ่อนเล็กๆที่กิ่ง มีดอกสีชมพู ถึงสีม่วงอ่อน(ลาเวนเดอร์) ผลของอะเซโลรา เชอร์รี่อาจเป็นผลเดี่ยว หรือเป็นช่อประมาณ 2-3 ลูก มีลักษณะแป้นถึงกลม คล้ายเชอร์รี่ แต่มี 3 หยัก ขนาดกว้างประมาณ 1.25-2.5 เซนติเมตร ผิวมันบาง สีแดงสด เนื้อชุ่มน้ำสีส้ม มีรสเปรี้ยว หรืออมเปรี้ยวจนเกือบหวาน มีกลิ่นคล้ายแอปเปิ้ล ใน 1 ผลจะมี 3 เมล็ด เนื่องจากผลของอะเซโลรา เชอร์รี่มีผิวที่ค่อนข้างบาง จึงทำให้ช้ำง่าย และเสื่อมสภาพเร็ว หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วจะเกิดกระบวนการหมักอย่างรวดเร็ว (ประมาณ 3-5 วัน) และถ้าไม่เก็บไว้ในที่อุณหภูมิต่ำ (7°c) จะทำให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย โดยถ้าต้องการเก็บไว้นานๆ ต้องเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า -12°c จึงนิยมรับประทานผลสด หรือนำไปทำแยม เยลลี่ ไซรัป น้ำผลไม้ และก็มีการนำมาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ เช่น ผงขัดผิว สบู่/เจลล้างหน้า หรือเป็นส่วนผสมในครีมและเครื่องสำอางต่างๆ เป็นต้น


อะเซโลรา เชอร์รี่เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสาระสำคัญตัวหนึ่งชื่อ trans-beta-carotene ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต่ำ ไม่มีคลอเลสเตอรอล และจากผลการวิจัยพบว่า อะเซโรลา เชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า
ปริมาณสารอาหารที่พบจากส่วนที่กินได้ของอะเซโลรา เชอร์รี่ 100 กรัม
  • พลังงาน 59 แคลอรี่
  • โปรตีน 0.68-1.8 กรัม
  • ใยอาหาร 0.6-1.2 กรัม
  • ไขมัน 0.18-1 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 6.98-14.0 กรัม
  • แคโรทีน 0.003-0.0408 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 8.2-34.6 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 16.2-37.5 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 0.17-1.11 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 408-1000 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 1 0.024-0.04 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.038-0.079 มิลลิกรัม
  • ไนอะซิน 0.34-0.526 มิลลิกรัม
  • กรดโฟลิก 13.7 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี (ขึ้นกับสายพันธุ์) ผลดิบสีเขียวมีวิตามินซี 4500 มิลลิกรัม
  • ปริมาณความชื้น 81.9-91.0 กรัม
  • เถ้า 0.77-0.82 กรัม
  • ปริมาณของผลกึ่งสุก 3300 มิลลิกรัม
  • ปริมาณของผลสุก 2000 มิลลิกรัม
  • ปริมาณเฉลี่ยทุกสายพันธุ์ 1500 มิลลิกรัม

อะเซโลรา เชอร์รี่ เป็นผลไม้เมืองร้อนที่ทั่วโลกยอมรับว่ามีวิตามินซีอุดมสมบูรณ์ที่สุดชนิดหนึ่ง และมีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ  จึงได้มีการปลูกเป็นอุตสาหกรรมเพื่อนำมาผลิตวิตามินซีกันอย่างแพร่หลาย ในหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบผง  อัดเม็ด  แคปซูล  น้ำผลไม้   แต่ถ้ามีความร้อนสูง วิตามินซีจะสลายตัว  ทำให้ต้องสกัดน้ำอะเซโลรา เชอร์รี่ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ -195°c และผลอะเซโลรา เชอร์รี่ 18 กิโลกรัมจะสกัดเป็นน้ำได้ 1 กิโลกรัม จากนั้นมาทำให้แห้งเพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป
 อะเซโรลา เชอร์รีเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการเยอะมาก  เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี  ไฟโตนิวเทรียนท์ในกลุ่มแอนโธไซยานินและแคโรทีนอยด์ รวมถึงวิตามินบี 1 , บี 2 ,บี 3, บี 6 และวิตามินบี 12  นอกจากนี้ยังพบแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายอย่างโพแทสเซียม แคลเซียม โซเดียม เหล็ก ฟอสฟอรัส ทองแดง สังกะสี ซีลีเนียม ในผลไม้มหัศจรรย์นี้ด้วย
วิตามินซีในอะเซโรล่า เชอรี่
โดยทั่วไปผลสดของอะเซโรลา เชอร์รี 100 กรัม จะพบวิตามินซีตั้งแต่ 1.5 กรัม ถึงประมาณ 3.5 กรัมน้ำอะเซโรลา เชอร์รีคั้นสดปริมาตร 180 มิลลิลิตรมีปริมาณวิตามินซีเทียบเท่ากับน้ำส้มคั้นสด 14 ลิตร  วิตามินซีจากผลอะเซโรลา เชอร์รี สามารถดูดซึมผ่านลำไส้เล็กได้เร็วกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ถึง 1.63 เท่า เนื่องมาจากไฟโตนิวเทรียนท์ในผลอะเซโรลา เชอร์รี เช่น ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี
อะเซโรลา เชอร์รี่  ยังมีดีอีกนะ….
นอกจากมีวิตามินซีสูงแล้ว (ซึ่งครั้งหน้าจะนำเรื่องของวิตามินซีมาฝากนะคะ) อะเซโรลา เชอร์รี่ มีผลต่อสุขภาพของเราด้วยนะคะ  ..
อันดับแรกเลยคือ  อะเซโรลา เชอร์รี่ ขึ้นชื่อเลยว่าสามารถต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้อย่างดี
จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากผลอะเซโรลา เชอร์รีทั้งในรูปสกัดจากผลสดและน้ำคั้นมีค่า ORAC สูงมากกว่าสตรอเบอร์รีและผักโขม  (ORAC คือ Oxygen Radical Absorbance Capacity เป็นวิธีวัดศักยภาพของสารต้านอนุมูลอิสระที่ปรับให้อนุมูลอิสระมีค่าเป็นกลาง)  นั่นหมายถึง อะเซโรลา เชอร์รี่ มีความสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่านั่นเอง



นอกจากนี้  อะเซโรลา เชอร์รี่ ช่วยชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรต และการดูดซึมกลูโคส
การย่อยคาร์โบไฮเดรตนั้นจำเป็นต้องใช้เอนไซม์จากตับอ่อนและลำไส้เล็ก เพื่อย่อยน้ำตาลโมเลกุลคู่ให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว  และให้ร่างกายจะดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป    ซึ่งหากสามารถทำการชะลอกระบวนการดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลง ก็จะส่งผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการทำการทดลองกับหนูทดลองที่เป็นเบาหวาน พบว่าสามารถช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสได้

อะเซโรลา เชอร์รี เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและใช้เป็นวัตถุดิบในอาหารมาเป็นเวลานาน จึงมีความปลอดภัยสูงแม้จะรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยมีการทดสอบกับสัตว์ทดลองเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการรับประทานสารกสัดโพลิฟีนอล จากอะเซโรลา เชอร์รี พบว่า สารสกัดไม่เป็นอันตรายต่อเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว หรืออวัยวะต่างๆ
ด้วยคุณภาพคับคั่งอย่างนี้ ทำให้ราคาของผลไม้นี้ก็สูงตามไปด้วย แต่ก็คุ้มค่าเพราะ อะเซโรลา เชอร์รี่ อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเราัทั้งนั้น และที่สำคัญสำหรับสาวๆ ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้สดใสผุดผ่อง มีน้ำมีนวล อะเซโรลา เชอร์รี่ ก็เป็นอีกคำตอบหนึ่งที่ช่วยคุณได้ค่ะ  

คุณประโยชน์ของวิตามินซีจากอะเซโรลา เชอร์รี่ 

 1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน

2.  จำเป็นต่อการสร้างเส้นใยคอลลาเจน  ( Collagen ) โดยช่วยออกฤทธิ์เร่งปฏิกิริยาทางเคมีที่เกี่ยวข้องกับสารคอลลาเจน และการประสานตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลในร่างกายหายเร็วขึ้นช่วย เสริมสร้างการเจริญเติบโตในผู้ใหญ่ ทำให้ผิว กระชับ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ช่วยในการสมานตัวของแผล หากขาดวิตามินซี เป็นสาเหตการเปราะแตกง่ายของ ผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดออกง่าย

3. ต้านการเกิดมะเร็ง โดยการยับยั้งสารไนโตรซามีนจากการรับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่ไหม้เกรียม

4. ป้องกันการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง โดย ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส         ( Hyaluronidase ) ที่ทำหน้าที่ทำลายเนื้อเยื่อรอบเซลล์มะเร็งจนก่อให้เกิดการกระจายตัวของ เซลล์มะเร็งไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ( Metaastasis )

5. ช่วยดูดซึมซีลีเนียมในลำไส้ อะเซโร ลาเชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า และจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินสูงที่สุด นอกจากนั้น เสริมการทำงานของวิตามินซ๊ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ จะช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินซีไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
    
6.  จำเป็นต่อการสร้างเส้นใยคอลลาเจน  ( Collagen ) โดยช่วยออกฤทธิ์เร่งปฏิกิริยาทางเคมีที่เกี่ยวข้องกับสารคอลลาเจน และการประสานตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลในร่างกายหายเร็วขึ้นช่วย เสริมสร้างการเจริญเติบโตในผู้ใหญ่ ทำให้ผิว กระชับ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ช่วยในการสมานตัวของแผล หากขาดวิตามินซี เป็นสาเหตการเปราะแตกง่ายของ ผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดออกง่าย


ความเครียด ภาวะเครียดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ความเครียดจะกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนจำพวกอะดรีนาลิน (Adrenalin) และคอร์ทิซอล (Cortisol) ซึ่งเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปทั่วร่างกาย และหากเกิดการกระตุ้นจากฮอร์โมนนี้ติดต่อกันนานๆ ร่างกายจะนำสารอาหารไปใช้ในการเผาผลาญพลังงานมากเกินไปตามมา ดังนั้น การรับประทานวิตามินซีจากธรรมชาติจะช่วยลดอาการเครียดได้ด้วยกลไกการชดเชยวิตามินซี ที่ถูกนำไปใช้ในกระบวนการเผาผลาญอาหาร ช่วยลดการแพ้ต่างๆ รวมทั้งโรคภูมิแพ้ โดยยับยั้งสารที่เรียกว่า ฮีสตามีน เป็นสารที่ร่างกายสร้าง ขึ้นมาหากมากเกินไปจะทำให้มีอาการระคายเคืองตามระบบหายใจ ทำให้จามมีน้ำมูกไหล นอกจากนี้ยังพบว่าวิตามินซีสามารถลดโอกาสการติด เชื้อบริเวณปอดได้อย่างมีนัยสำคัญ


ข้อมูลวิจัยล่าสุดจากการศึกษาทาง วิทยาศาสตร์ของอะเซโรลา เชอร์รี พบว่า
 วิตามินซีจากผงอะเซโรลา เชอร์รีสามารถเอื้อ ประโยชน์ต่อร่างกาย (Bioavailable) ได้มากกว่า วิตามินซีที่ได้จากการสังเคราะห์ ในเด็กทารก หลังจากประทานวิตามินซีจากอะเซโรลา เชอร์รีผสมกับน้ำแอปเปี้ลพบว่า เด็กทารก มีอัตราการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย เมื่อเทียบตามอายุและน้ำหนักสูงกว่ามาตรฐานเด็กทารกในวัยเดียวกัน 

 ในผู้ใหญ่สูงอายุที่มีกิจกรรมปกติหลังจากการรับประทานอะเซโรลา เชอร์รีแล้วเจาะเลือดพบว่า มีระดับของเม็ดเลือดขาวจำพวก ลิวโคไซท์เพิ่มขึ้นในเลือด ดังนั้นการรับประทาน อะเซโรลา เชอร์รีจึงมีความสัมพันธ์กับการเสริมภูมิต้านทานในผู้ใหญ่สูงอายุ  อย่างมีนัยสำคัญ
      อะเซโรลา เชอร์รี ต้านเชื้อราได้เนื่องจากในผลอะเซโรลา เชอร์รีให้สารออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราจำพวก Epidermephyton floccosum, Microsporum canis และTrichophyton rubrumm


ที่มา : http://www.snowe-luckyshop.com  และ  http://www.ladybooth.com


Monday, March 7, 2016

แอล-ซีสเทอีน : 1 ในส่วนผสมสำคัญของ Balance W

แอล-ซีสเทอีนเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างโปรตีนภายในร่างกาย เช่น ผิว ผม เล็บ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรตีนเคอราตินที่ใช้ในการสร้างผิว ผม เล็บให้มีสุขภาพดี นอกจากนี้ L-cysteine ช่วยกระตุ้นการสร้างกลูตาไธโอนในร่างกาย โดย L-cysteine จะดูดซึมเข้าไปในร่างกาย (ที่ลำไส้เล็ก) แล้วถูกนำไปใช้ในกระบวนการสร้างกลูต้าไธโอน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ (Free Radicals) และกลูต้าไธโอนยังสามารถช่วยยับยั้งการสร้างเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นตัวเริ่มต้นการสร้าง melanin และเมื่อ tyrosinase ถูกยับยั้ง จะเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับมาสร้างเม็ดสีผิวสว่างที่เรียกว่า Phaeomelanin ขึ้นแทน จึงช่วยให้ผิวขาว สว่าง ใสขึ้น


หน้าที่สำคัญของแอล-ซีสเทอีน
- Detoxification การขจัดสารพิษ ด้วยร่างกายสร้าง Glutathione ซึ่งจะเป็นตัวที่ผลิตเอนไซม์ในร่างกาย โดยเฉพาะ Glutathione-S-transferase ที่ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยทำการเปลี่ยนสารพิษ ชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ให้เป็นสารที่ละลายในน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย
- Antioxidants ช่วยป้องกันสมองและตับจากการถูกทำลายจากการดื่มแอลกฮอลล์, ยา และการสูบบุหรี่ โดยจะเข้าไปช่วยต่อต้านสารพิษ สร้างสารแอนตี้ออกซิเดนซ์โดยทำงานร่วมกันกับ Vitamin C ซ่อมแซมสารพันธุกรรมที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ และนอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทซิเนส (Tisanes) ไม่ให้เปลี่ยนเป็น โดปาควินโนน (Dopaquinone)  จึงมีผลทำให้สร้างเม็ดสีน้อยลง ทำให้มีผิวขาว  ฝ้า กระ  จุดด่างดำ ลดเลือนลง ชะลอปฏิกริยาแห่งวัยของร่างกาย (การแก่ของเซลล์) ส่งผลให้ผิวเนียนเรียบ เปล่งปลั่ง นอกจากนั้นยังช่วยเสริมสร้างการซ่อมแซมผิวไหม้, ช่วยการเผาผลาญไขมัน เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ลดภาวะกล้ามเนื้อวาย

ประโยชน์ของ L-Cysteine
- ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ
- ช่วยชะลอความชรา ลดความเสียหายของเซลล์
- ช่วยให้เม็ดเซลล์ผิวหน้า ให้ขาว แจ่มใส กระจ่างใส
- ช่วยปรับให้ระบบในร่างสร้างเม็ดสีเมลานิน น้อยลง
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

cr.http://www.thaibio.com/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%99

Wednesday, March 2, 2016

คอลลาเจน คืออะไร ?

คอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหลายชนิดในสัตว์ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ฉะนั้นจึงเป็นโปรตีนที่พบมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วย[1] โดยคิดเป็น 25% ถึง 35% ของปริมาณโปรตีนทั้งร่างกาย ส่วนใหญ่พบคอลลาเจนในรูปเส้นใยฝอยยืดในเนื้อเยื่อเส้นใย (fibrous tissue) เช่น เอ็นกล้ามเนื้อ (tendon) เอ็น (ligament) และผิวหนัง ทั้งพบมากในกระจกตา กระดูกอ่อน กระดูก หลอดเลือด ทางเดินอาหารและหมอนกระดูกสันหลัง เซลล์สร้างเส้นใย (fibroblast) เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนมากที่สุด
ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มใยกล้ามเนื้อ (endomysium) คอลลาเจนประกอบเป็น 1% ถึง 2% ของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเป็น 6% ของน้ำหนักกล้ามเนื้อมีเอ็นที่แข็งแรง[2] เจลาติน ซึ่งใช้ในอาหารและอุตสาหกรรม เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการสลายด้วยน้ำ (hydrolysis) แบบย้อนกลับไม่ได้

คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสายยาว ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่ว ๆ ไปเช่นแดียวกับเอนไซม์ เส้นใยคอลลาเจนมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยปกติทั่วไปผิวหนังมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มาก จึงมีแรงสปริงและยืดหยุ่นดีตามไปด้วย คอลลาเจนนั้นไม่ได้มีอยู่ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้น อวัยวะภายในร่างกาย ก็มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ได้แก่ ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน, เอ็น, เอ็นกล้ามเนื้อและกระดูก คอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เคราติน
เคราตินมีหน้าที่สร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวลดลง จึงเกิดริ้วรอย (wringkle) บนชั้นผิว, นอกจากนี้ เคราตินมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ รวมทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อกระจกตาและเลนส์ตาด้วย


การใช้ทางอุตสาหกรรม
เมื่อคอลลาเจนผ่านการสลายด้วยน้ำ คอลลาเจนจะแตกตัวออกเป็นสารเชิงซ้อนของคอลลาเจนเปปไทด์แบบ Polyproline II (PPII) หรือเจลาติน นอกจากการใช้เป็นอาหารแล้ว คอลลาเจนยังใช้เป็นส่วนประกอบของยา เครื่องสำอาง และฟีล์มถ่ายภาพเมื่อพิจารณาในแง่ของอุตสาหกรรมอาหารแล้ว สารคอลลาเจนไม่ได้ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่มีการประชาสัมพันธ์เชิงการค้าว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมคอลลาเจนต่างแสดงคุณสมบัติของสินค้าว่าสามารถยับยั้งการเกิดริ้วรอยและมีผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งยังไม่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ออกมาสนับสนุนการโฆษณาในลักษณะนี้
คำว่า Collagen (คอลลาเจน) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกจากคำว่า “Kolla” ที่แปลว่า กาว โดยเมื่อก่อนได้มีการทำกาวโดยการนำหนังและเอ็นม้ามาเคี่ยวจนกลายเป็นกาว ตามหลักฐานที่พบมีการใช้งานกาวลักษณะนี้มากว่า 8000 ปีแล้ว โดยใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเชือกและตะกร้าสานเพื่อให้มีความแข็งแรง และมีการใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไป กาวชนิดนี้เมื่อแห้งแล้วสามารถทำให้อ่อนนิ่มได้อีกโดยการให้ความร้อน เพราะกาวจากสิ่งมีชีวิตเป็นเทอร์โมพลาสติก ชนิดหนึ่งจึงมีการใช้งานได้หลากหลายโดยเฉพาะการผลิกเครื่องดนตรีเช่น ไวโอลีน กีตาร์ แม้กระทั่งเมื่อมนุษย์สามารถผลิตพลาสติกสังเคราะห์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีการใช้งานกาวเจลาตินอยู่ทั่วไป

การใช้ทางการแพทย์
มีการใช้คอลลาเจนในศัลยกรรมเสริมสวยอย่างแพร่หลาย โดยเป็นการช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยแผลไหม้เพื่อสร้างกระดูกใหม่ ทั้งยังใช้ในจุดประสงค์ทางทันตกรรม ออร์โทพีดิกส์และศัลยกรรมอื่นอีกมาก พบใช้ทั้งคอลลาเจนมนุษย์และวัวเป็นสารเติมเข้าผิวหนังเพื่อรักษารอยย่นและการเปลี่ยนตามวัยของผิวหนังได้[3]
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี